kanyakorn srijadkarn


วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

10 วิธีลดปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์



1. เปิด-ปิด Windows ให้ถูกวิธี
     - เปิด Windows การเปิด Windows กดปุ่ม Power หรือกดปุ่มสวิทซ์ On ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ และระหว่างที่เปิด Windows อยู่ ห้ามปิดสวิทซ์เด็ดขาดเพราะจำทำให้ Windows เสียหายได้ ต้องรอให้ขึ้นหน้าของ Windows แบบปกติ และสั่ง Shutdown ใหม่
    - ปิด Windows ให้เลือกคำสั่ง Shutdown และถ้าระหว่างการ Shutdown มีข้อความว่ากำลังติดตั้ง Windows update อยู่ให้รอจนกระทั่งเสร็จ ห้ามกดปุ่ม Power เพื่อให้เครื่องปิดไป เพราะ Windows อาจไม่สามารถกลับมาใช้งานได้
2. ติดตั้งคอมพิวเตอร์ให้ถูกที่
     โดยเฉพาะกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต็ะ ที่ไม่ควรติดตั้งคอมพิวเตอร์ให้ใกล้กับฝาผนังมากเกินไปเพราะจะทำให้การระบายความร้อนไม่ดีพอ
3. ติดตั้งเครื่องสำรองไฟ หรือ UPS
    สิ่งนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะกับหลายๆ พื้นที่ที่ไฟตกหรือดับบ่อย ถ้าระหว่างที่เราทำงานกับ Windows อยู่แล้วไฟดับกะทันหัน โอกาสที่จะทำให้ Windows ไม่ทำงานสูงมากหรืออุปกรณ์บางตัวอาจเสียหายได้ด้วย โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์
4. ลบไฟล์ขยะในเครื่อง
    เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน  รวมทั้งสามารถลดปัญหาไวรัสและสปายแวร์ได้อีกด้วย แนะนำให้ทำได้ทุกวัน
5. ถอดถอดโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน หรือ Uninstall/Remove
    จะช่วยให้การทำงานคอมพิวเตอร์ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะกับเครื่องคอมฯที่มีพื้นที่ฮาร์ดดิสก์น้อยๆ
6. ตรวจสอบไฟล์ที่ใช้งานจากภายนอก (Flash drive / USB)
    ด้วยโปรแกรม Anti-virus ก่อนการใช้งานเสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าไฟล์ที่เราได้รับนั้นมีไวรัสแฝงอยู่หรือไม่
7. ตั้ง Password ก่อนการใช้งาน Windows
    ช่วยลดปัญหาไวรัสได้ด้วย เพราะไวรัสบางตัวสามารถผ่านทางระบบเครือข่ายภายใน Network เข้ามาและถ้าเราไม่มี Password ป้องกันไวรัสก็สามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
8. ตั้ง Password ในโปรแกรม Screen server
     เวลาไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานนานๆ เราสามารถสั่งให้โปรแกรม Screen server แสดงได้ และสามารถกำหนดให้ใส่ Password ได้ด้วย ทำให้คนอื่นไม่สามารถเข้ามาใช้งานเครื่องของเราระหว่างที่เราไม่อยู่ได้ด้วย
9. กดปุ่มบนคีย์บอร์ดเบาๆ
    คอมพิวเตอร์สามารถรับรู้คำสั่งด้วยการสัมผัสเบาๆ ได้ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องกระแทกแป้นพิมพ์แรงๆ จะทำใหเกลไกของเครื่องคอมพิวเตอร์เสียหายได้
10. ทำความสะอาดเสียบ้าง
   เพียงแค่เป่าฝุ่นออกบ้าง โดยเฉพาะกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ลองเปิดฝาครอบดูว่ามีหยากไย่ ใยแมงมุมมั้ย จะช่วยลดความร้อนของเครื่องได้เป็นอย่างมาก
   
     เรื่องง่ายๆ เหล่านี้ เราสามารถทำได้ถึงแม้จะไม่ครบทุกข้อแต่ลองนำไปใช้ดู อย่างน้อยก็ช่วยลดปัญหาต่างในการใช้คอมพิวเตอร์ได้

วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

20 เรื่องน่ารู้ที่คนใช้คอมพิวเตอร์ควรทราบ



1. เปิด-ปิด เครื่องคอมพิวเตอร์บ่อย อาจทำให้เครื่องพัง Windows เสียได้
    ดังนั้นระหว่างที่มีการเปิดและรัน Windows แล้วให้รอจนกระทั่งเปิด Windows
    สมบูรณ์ก่อน  และถ้า  ต้องการปิดให้สั่ง Shutdown การปิด Windows แบบ
    ไม่สมบูรณ์อาจทำให้Windows ไม่ สามารถใช้งานในคราวต่อไปเพราะไฟล์
     ระบบอาจเสียได้
2. ลบขยะคอมพิวเตอร์ช่วยแก้ปัญหาไวัรัสได้
    จะช่วยได้ส่วนหนึ่งแต่ผลพลอยได้คือ ได้พื้นที่ของฮาร์ดดิสก์กลับคืนมาด้วย
3. ติดตั้งโปรแกรมกำจัดไวรัสแล้ว ต้องหมั่นอัพดทและสแกนไวรัสบ่อยๆ
4. อีกวิะีที่ช่วยลดปัญหาไวรัสคืออัพเดท Windows ให้ทันสมัยเสมอ
5. วิธีป้องกันคนแอบใช้คอมพิวเตอร์ของเราง่ายๆ เพียงตั้งรหัสผ่านเวลาเปิดเครื่อง
     และใน Screem server
    - สามารถเข้าไปในส่วนของ Control Panel เลือกหัวข้อ User เพื่อตั้งรหัสผ่านของ
       Windows
    - Screen server สามารถตั้้งรหัสผ่านโดยการคลิกขวาเลือก Properties
      แล้วเลือก Screen server
6. วิธีประหยัดไฟในการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างง่ายๆ คือปิดหน้าจอขณะไปทำธุระ
     อย่างอื่น แต่ไม่ได้หมายถึงปิดเครื่อง
7. วิธีประหยัดเงินสำหรับซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้งาน คือหันมาใช้โปรแกรม
     Open Souece หรือFreeware
8. โปรแกรมปรับแต่งภาพที่ใช้งานง่าย ไม่ต้องเสียสตางค์ซ่อนอยู่ในโปรแกรม
     Microsoft Office Tools  โปรแกรมนี้มีชื่อว่า Microsoft Office Picture Manager
9. การใช้หมึกปลอมกับเครื่องพิม อาจทำให้สิ้นเปลืองกว่าการใช้หมึกจริง เพราะอาจทำ
    ให้หัวพิมพ์เสีย
10. โปรแกรมฟรีที่สามารถใช้ทดแทน Adobe Photoshop ได้คือ  GIMP
11. โปรแกรมฟรีที่สามารถใช้ทดแทน Winzip ได้คือ 7-Zip
12.ดูหนัง ฟังเพลง ผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องง่ายๆ แค่มีอินเตอรืเน็ตความเร็วสูง
13. สำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค วิธีรักษาแบตเตอรีให้ยาวนานขึ้นคือใช้ไฟจาก
      แบตเตอรีบ้าง
14. ควรทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ้าง ทั้งภายในและภายนอกและบริเวณข้างเคียงด้วย
15. สาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง นอกเหนือจากไวรัสแล้วนั่นคือ  ฮาร์ดดิสก์ใน
      Drive C: เหลือน้อยมากๆ
16. ทำ Defragment คือการจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ หลังจัดเรียงต้องทำการ Shutdown
      เครื่องก่อนใช้ งานเสมอ  เพื่อช่วยให้เครื่องเร็วขึ้นกว่า 10 %
17. ทำความสะอาดแป้นพิมพ์บ้าง เพราะอาจมีเศษอาหารหรือเศษขนมติดในร่องแป้นพิมพ์
      จากการที่เรานั่งกินอยู่หน้าคอมฯ
18. เมาส์เสีย อาจเป้นเพราะสกปรก ถ้าเป็นเมาส์แบบลูกกลิ้งให้หงายท้องเมาส์และเปิดทำ
      ความสะอาดบ้าง
19. เมาส์ฝืด ใช้งานไม่คล่อง อาจเป็นแผ่นรองเมาส์ ถ้าเป็นเมาส์แบบ Optical หรือใช้แสง ให้
      เปลี่ยนแผ่นรองเมาส์เป็นแบบไม่มีลวดลายหรือไม่ใช้เลย
20. เมาส์ไม่ทำงาน ถ้าเป้นเมาส์ไร้สายส่วนมากมาจากแบตเตอรีหมด ให้ลองเปลี่ยนแบตใหม่

คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างไร




วิธีแปลงไฟล์เป็น PDF ด้วย Word 2010


 
1. เปิดเอกสารด้วย Word 2010
2. เลือกคำสั่ง บันทึกเป็นชนิด (save as type)
3. ให้เลือกเป็น PDF
4. พิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการในช่องชื่อแฟ้ม
5. คลิกเลือกบันทึก

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แบบทดสอบเรื่องประวัติคอมพิวเตอร์

คำสั่ง  เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. สิงใดคือต้นกำเนิดของคอมพิวเตอร์
    ก. ลูกคิด
    ข. ก้อนหิน
    ค. เครื่องคิดเลข
    ง. เครื่องบวกเลข
2. ใครได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์
    ก. แบลส  ปาสคาล
    ข. ชาร์ล  แบบเบจ
    ค. โฮเวิร์ด  ไอเค่น
    ง. เฮอร์แมน  ฮอนเลอริท
3. เทคโนโลยีใดถูกนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
    ก. ไอซี
    ข. ทรานซิสเตอร์
    ค. หลอดสูญญากาศ
    ง. วงจรรวมขนาดใหญ่
4. เทคโนโลยีใดถูกนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
    ก. ไอซี
    ข. ทรานซิสเตอร์
    ค. หลอดสูญญากาศ
    ง. วงจรรวมขนาดใหญ่
5. เทคโนโลยีใดถูกนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
     ก. ไอซี
     ข. ทรานซิสเตอร์
     ค. หลอดสูญญากาศ
     ง. วงจรรวมขนาดใหญ่
6. เทคโนโลยีใดถูกนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
    ก. ไอซี
    ข. ทรานซิสเตอร์
    ค. หลอดสูญญากาศ
    ง. วงจรรวมขนาดใหญ่
7. คอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบันมนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในด้านใด
    ก. การพิมพ์งาน
    ข. การคิดคำนวณ
    ค. การบันทึกข้อมูล
    ง. การตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น
8. ข้อใดคือประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษา
    ก. ดูหนัง
    ข. ฟังเพลง
    ค. พิมพ์รายงาน
    ง. เล่นเกมส์สนุกๆ
9. ข้อใดคือโทษของคอมพิวเตอร์ที่เกิดกับร่างกายผู้ใช้
    ก. ทำให้เสียเวลา
    ข. ทำให้เสียเงิน
    ค. ทำให้เสียสายตา
    ง. ทำให้เสียกำลังใจ
10. นักเรียนควรใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตในด้านใดมากที่สุด
    ก. ค้นหาเพื่อนคุย
    ข. ค้นหาข้อมูล ทำรายงาน
    ค. ค้นหาเพลงและหนังสนุกๆ
    ง. เล่นเกมส์เพื่อฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์
11. ยุคของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ยุค
    ก. 6 ยุค
    ข. 2 ยุค
    ค. 3 ยุค
    ง. 4 ยุค
12. ยุคไหนของคอมพิวเตอร์ที่มีหลอดสุญญากาศและดรัมแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญ
    ก.ยุคที่ 1
    ข. ยุคที่ 2
    ค. ยุคที่ 3
    ง. ยุคที่ 4
13. คอมพิวเตอร์มีวิวัฒนาการมาจากอะไร
    ก. กระดานคำนวณ
    ข. ลูกคิด
    ค. กระดานคำนวณและลูกคิด
    ง. กังหันลม
14. cpu เปรียบเสมือนส่วนใดของคน
    ก. ปอด
    ข. สมอง
    ค. ตับ
    ง. ไต


เฉลยแบบทดสอบเรื่องประวัติคอมพิวเตอร์

1. ก        2. ข        3. ค       4. ข           5. ก
6. ง        7. ค        8. ค       9.ค            10.ข
11.ง      12.ก       13.ข     14.ข

แบบทดสอบ เรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภทนำเข้าข้อมูล

คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำแนกได้กี่ประเภท
    ก. 2 ประเภท
    ข. 3 ประเภท
    ค. 4 ประเภท
    ง. 5 ประเภท
2. อุปกรณ์รับเข้าหลักคืออะไร ?
    ก. เมาส์
    ข. บาร์โค๊ด
    ค. สแกนเนอร์
    ง. คีย์บอร์ด
3. อุปกรณ์แสดงผลหลักของคอมพิวเตอร์คือ ?
    ก. ซีพียู
    ข.ลำโพง
    ค. จอภาพ
    ง. ปริ้นเตอร์
4.อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดถือเป็นหัวใจของคอมพิวเตอร์คืออะไร ?
    ก. แรม
    ข. ซีพียู
    ค.ฮาร์ดดิสก์
    ง. เมนบอร์ด
5. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นหน่วยความจำหลักคืออะไร?
    ก. ฮาร์ดดิสก์
    ข. ซีดีรอม
    ค. แฟลซไดรฟ์
    ง. แรม,รอม
6. ฮาร์ดดิสก์(Harddisk) เป็นหน่วยความจำประเภทใด ?
    ก. หน่วยความจำหลัก
    ข. หน่วยความจำสำรอง
    ค. หน่วยความจำเสมือน
    ง. หน่วยความจำชั่วคราว
7. เฟลชไดร์ฟเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในหน่วยใด ?
    ก. หน่วยความจำ
    ข. หน่วยรับเข้า
    ค. ประมวลผล
    ง. หน่วยแสดงผล
8. ปริ้นเตอร์มีกี่ชนิด ?
    ก. 2 ชนิด 
    ข. 3 ชนิด
    ค. 4 ชนิด
    ง. 5 ชนิด
9. ปัจจุบันเมาส์ที่ได้รับความนิยมมากเพราะไม่มีฝุ่นเข้าไปเกาะได้แก่เมาส์ชนิดใด ?
    ก. เมาส์ PS2
    ข. เมาส์ USB
    ค. เมาส์ลูกกลิ้ง
    ง. เมาส์เลเซอร์
10.

เฉลยแบบทดสอบเรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประเภทนำเข้าข้อมูล
1. ก                2. ข                3. ก                  4. ก                  5. ก       
6. ข                7. ข                8. ก                  9. ข                 10.

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เฉลยแนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอ์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 3

1. ง
2. ง
3. ง
4. ค
5. ง
6. ค
7. ง
8. ง
9. ข
10. ง
11. ก
12. ข
13. ค
14. ค
15. ข
16.ง
17. ค
18. ข
19. ข
20. ข
21. ข

เฉลยแนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอ์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 2

1. ง
2. ค
3. ข
4. ค
5. ข
6. ข
7. ข
8. ข
9. ง
10. ก
11. ก
12. ค
13. ก
14. ข
15. ง
16. ข
17. ก
18. ก
19. ข
20. ง

เฉลยแนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอ์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 1

1. ค
2. ค
3. ง
4. ง
5. ก
6. ค
7. ก
8. ง
9. ข
10. ง
11. ข
12. ข
13. ค
14. ง
15. ก
16. ค
17. ข
18. ข
19. ง
20. ง

แนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอร์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 3

1. ถ้าต้องการบันทึกเอกสารที่พิมพ์ในโปรแกรมประมวลผลคำ จะเลือกใช้คำสั่งชุดใด
    ก. File > Open
    ข. Format > Font
    ค. Insert > Object
    ง. file > Save
2. ถ้าต้องการบันทึกข้อมูลและลบข้อมูลที่บันทึกไปแล้ว จะเลือกใช้อุปกรณ์ในข้อใด
    ก. สแกนเนอร์
    ข. กล้องดิจิตัล
    ค. แผงแป้นอักษร
    ง. หน่วยความจำแบบแฟลซ
3. ถ้าต้องการค้นหาข้อมูลจาก CD-ROM Drive จะคลิกที่คำสั่งใดเป็นขั้นตอนแรก
    ก. My Document
    ข. Recycle Bin
    ค. My Picture
    ง. My Computer
4. การใช้อุปกรณ์ในการเก็บรักษาข้อมูล ข้อใดเหมาะสมที่สุด
    ก. เสียงคนร้อง - กล้องดิจิตัล
    ข. เรียงความ - แฟ้มสะสมผลงาน
    ค. ภาพยนตร์ - ซีดีรอม 2 แผ่น
    ง. ภาพถ่าย - โทรศัพท์มือถือ
5. Microsoft Power point เป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์ในด้านใด
    ก. พิมพ์รายงาน
    ข. สร้างกราฟ
    ค. ดัดแปลงภาพถ่าย
    ง. การนำเสนอข้อมูล
6. อุปกรณ์ใดไม่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอข้อมูล
    ก. จอรับภาพ
    ข. ลำโพง
    ค. หูฟัง
    ง. เมาส์
7. ข้อมูลในบัตรประชาชน จัดเป็นข้อมูลชนิดใด
    ก. ข้อมูลตัวอักขระ และข้อมูลภาพ
    ข. ข้อมูลตัวเลข และข้อมูลตัวอักขระ
    ค. ข้อมูลตัวเลข และข้อมูลภาพ
    ง. ข้อมูลตัวเลข ข้อมูลตัวอักขระ และข้อมูลภาพ
8. โทรศัพท์เคลื่อนที่จัดเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศด้านใด
    ก. ด้านการคมนาคม
    ข. ด้านวงการบันเทิง
    ค. ด้านธุรกิจพาณิชย์
    ง. ด้านการสื่อสาร
9. ข้อใดหมายถึงอินเตอร์เน็ต
    ก. เครือข่ายการทำธุรกิจ
    ข. เครือข่ายคอมพิวเตอร์
    ค. วงโคจรของดาวเทียม
    ง. เครือข่ายองค์กรอิสระต่างๆ
10. kanyakorn_yo@gmail.com kanyakorn_yo หมายถึงข้อใด
    ก. ที่, ที่อยู่
    ข. สถาบันธุรกิจ
    ค. เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
    ง. ชื่อผู้ส่งหรือผู้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
11. kanyakorn_yo@gmail.com @ หมายถึงข้อใด
     ก. ที่, ที่อยู่
     ข. สถาบันธุรกิจ
     ค. เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
     ง. ชื่อผู้ส่งหรือผู้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
12. kanyakorn_yo@gmail.com gmail หมายถึงข้อใด
    ก. ที่, ที่อยู่
    ข. สถาบันธุรกิจ
    ค. เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
    ง. ชื่อผู้ส่งหรือผู้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
13. kanyakorn_yo@gmail.com com หมายถึงข้อใด
    ก. ที่, ที่อยู่
    ข. สถาบันธุรกิจ
    ค. เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
    ง. ชื่อผู้ส่งหรือผู้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
14. ข้อใดหมายถึงคำว่าเบราวเซอร์ (Browser)
    ก. เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
    ข. ไปรษณีอิเล็กทรอนิกส์
    ค. เว็บไซต์ที่ช่วยในการค้นหาเว็บไซต์ที่เราต้องการ
    ง. โปรแกรมที่ใช้สำหรับแสดงข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือภาพยนตร์ทางอินเตอร์เน็ต
15. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ในการติดตั้งอินเตอร์เน็ต
    ก. โมเด็ม
    ข. เสาอากาศ
    ค. คอมพิวเตอร์
    ง. สายโทรศัพท์
16. อินเตอร์เน็ตหมายถึงข้อใด
    ก. ชื่อเรียกกลุ่มของคอมพิวเตอร์
    ข. การส่งสัญญาณเพื่อสื่อสารกัน
    ค. การค้นคว้าหาข้อมูล
    ง. การนำเครือข่ายหลายเครือข่ายมาเชื่อมโยงกันทั่วโลก
17. เครือข่ายของคอมพิวเตอร์มีลักษณะเหมือนสิ่งใด
    ก. รังผึ้ง
    ข. ระบบสุริยะ
    ค. ใยแมงมุม
    ง. ก้างปลา
18. คำว่า "โลกไร้พรหมแดน" มีความหมายตรงกับข้อใด
    ก. คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ข. การติดต่อสื่อสารที่ทำได้สะดวกรวดเร็ว
    ค. การทำงานหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน
    ง. การเรียนรู้ในยุคปฏิรูปการศึกษา
19. ข้อใดคือซอฟท์แวร์
    ก. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด
    ข. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มองเห็นได้แต่จับต้องไม่ได้
    ค. อุปกรณ์ที่ใช้ในการให้บริการสื่อสาร
    ง. โปรแกรมเมอร์
20. หน่วยความจำใดที่ใช้ในการจำข้อมูลและคำสั่งขณะที่เปิดเครื่องทำงาน
    ก.รอม(ROM)
    ข. แรม(RAM)
    ค. ฮาร์ดดิสก์(Harddisk)
    ง. แฟลซไดรฟ์(Flash drive)
21. อุปกรณ์ในข้อใด ไม่อยู่ในหน่วยรับข้อมูล
    ก. เมาส์
    ข. เครื่องพิมพ์
    ค. แป้นพิมพ์
    ง. เครื่องขับแผ่นบันทึก

แนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอร์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 2

1. CD ทำหน้าที่คล้ายอุปกรณ์ใด
    ก. CPU
    ข. Floppy disk drive
    ค. Monitor
    ง. Floppy disk
2. Printer เป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกับสิ่งใด
    ก. Mouse
    ข. Keyboard
    ค. Monitor
    ง. Hard disk
3. เครื่องคอมพิวเตอร์สกปรกมีฝุ่นจับควรปฏิบัติอย่างไร
    ก. ผ้าชุบน้ำเช็ด
    ข. เป่า
    ค. Scandisk
    ง. Disk Defragmenter
4. เมื่อเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ไม่ปรากฏภาพบนจอ สันนิฐานว่าเกิดจาดสาเหตุใด
    ก. สายเมาส์หลุดหรือหลวม
    ข. Floppy disk drive หลุดหรือหลวม
    ค. หน่วยความจำแรม(RAM)หลุดหรือหลวม
    ง. สายต่อลำโพงหลุดหรือหลวม
5. อุปกรณ์ในข้อใดเก็บข้อมูลได้มากที่สุด
    ก. Diskette
    ข. Hard disk
    ค. CD-ROM
    ง. RAM
6. ถ้าหากมีคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว อุปกรณ์ใดจำเป็นต้องใช้ติดตั้งอินเตอร์เน็ต
    ก. CD-ROM , คู่สายโทรศัพท์
    ข. Modem ,  คู่สายโทรศัพท์
    ค. CD-ROM , Scanner
    ง. Modem ,  Scanner
7. แฟ้มข้อมูลแรกของโฮมเพจจะต้องใช้ชื่อใด
    ก. Index.doc
    ข. Index.htm
    ค. Fist.doc
    ง. Fist.htm
8. วิธีการใดที่จะสามารถทำให้นำข้อมูลที่ได้จัดทำด้วยคอมพิวเตอร์กลับมาใช้งานได้อีก
    ก. การแทรกรูปภาพ
    ข. การบะนทึกแฟ้มข้อมูล
    ค. การเชื่อมโยงแฟ้มข้อมูล
    ง. การจัดรูปแบบของข้อความ
9. ชุดคำสั่งในระบบคอมพิวเตอร์เรียกว่าอะไร
    ก. คอมพิวเตอร์
    ข. อิเล็กทรอนิกส์
    ค. อินตรัคชัน
    ง. โปรแกรม
10. วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์เกิดจากสิ่งใดอันดับแรก
    ก. ลูกคิด
    ข. Slide Mel
    ค. เครื่องคิดเลข
    ง. เครื่องบวกเลข
11. บุคคลใดเป็นผูคิดค้นคอมพิวเตอร์เป็นคนแรก
    ก. Charles Babbage
    ข. Ada Augusta
    ค. Herman Hollerith
    ง. Haward H. Aiken
12. เครื่องคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. ใด
    ก. 1822
    ข. 1843
    ค. 1890
    ง. 1946
13.เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ผลิตด้วยหลอดสูญญากาศคือ
    ก. อินิแอค(ENIAC)
    ข. ไอบีเอ็ม มาร์ค วัน(IBM Mark 1)
    ค. ยูนิแวค วัน(Univac 1)
    ง. เอเอสซีซี(ASCC)
14.เอกสารที่แสดงผลในแต่ละหน้าผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจประกอบด้วยข้อความภาพและเสียง ไว้บริการแก่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต คือข้อใด
    ก. เว็บไซต์
    ข. เว็บเพจ
    ค. โฮมเพจ
    ง. โฮมไซต์
15. ที่เก็บเว็บเพจที่ผู้เขียนเขียนไว้หลายๆหน้าและแต่ละหน้าจะสามารถเชื่อมโยงติดต่อกันได้เรียกว่าอะไร
    ก. เว็บไซต์
    ข. เว็บเพจ
    ค. โฮมเพจ
    ง. โฮมไซต์
16. โปรแกรมประยุกต์ที่ใช้เขียนโฮมเพจ ได้แก่โปรแกรมใด
    ก. โปรแกรม Microsoft office
    ข. โปรแกรม Dreamweaver
    ค. โปรแกรม Notepad
    ง. โปรแกรม Paint
17. E-mail เป็นบริการด้านติดต่อสื่อสารบนอินเตอร์เน็ต ขั้นตอนแรกของการให้บริการ e-mail คือข้อใด
    ก.สมัครเป็นสมาชิก
    ข. พิมพ์รหัสผ่าน
    ค. ยอมรับเงื่อนไขของการใช้บริการ
    ง. พิมพ์ e-mail address ในช่อง login
18. ข้อใดแสดงรูปแบบ e-mail address ได้ถูกต้อง
    ก. kruyo@chaiyo.com
    ข. kruyo*chaiyo.com
    ค. kruyo฿chaiyo.com
    ง. kruyo&chaiyo.com
19. ถ้ากดปุ่ม Caps Lock บนแป้นพิมพ์ให้ดวงไฟ Caps Lock สว่างจะเกิดผลอย่างไร
    ก. พิมพ์ได้เฉพาะตัวเลขเท่านั้น
    ข. พิมพ์ได้เฉพาะตัวอักษรบน
    ค. พิมพ์ได้เฉพาะตัวอักษรล่าง
    ง. พิมพ์ได้เฉพาะสัญลักษณ์พิเศษ
20. คำสั่งใดไม่เกี่ยวข้องกับการค้นหาข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์
    ก. View
    ข. Windows Explorer
    ค. Search
    ง. Accessories

แนวข้อสอบ O-Net วิชาคอมพิวเตอร์ ชั้น ป.6 ชุดที่ 1

1. ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ข้อใดที่ไม่ใช่องค์ประกอบดังกล่าว
    ก. หน่วยรับข้อมูล
    ข. หน่วยประมวลผลกลาง
    ค. หน่วยความจำสำรอง
    ง. หน่วยแสดงผล
2. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
    ก. ฮาร์ดแวร์ (Hareware)
    ข. ซอฟท์แวร์ (Software)
    ค. คอนโทรลแวร์ (Controlware)
    ง. พีเพิลแวร์ (Peopleware)
3. ข้อใดหมายถึงหน่วยความจำสำรองในระบบคอมพิวเตอร์
    ก. CPU
    ข. CAI
    ค. ROM
    ง. RAM
4. สิ่งใดต่อไปนี้จัดอยู่ในหน่วยแสดงผล (Output unit)
    ก. แป้นพิมพ์ (Keyboard)
    ข. ซีพียู (CPU)
    ค. เมาส์ (Mouse)
    ง. แฟกซ์ (Fax)
5. ดิสก์ไดรฟ์ (Disk Drive) ที่มีความจุ 1.44 MB คือข้อใด
    ก. Floppy Disk
    ข. Hard Disk
    ค. CD-Rom
    ง. CD-RW
6. หน่วยความจุ 1 KB มีจำนวนกี่ตัวอักษร
    ก. 1 ตัวอักษร
    ข. 1,000 ตัวอักษร
    ค. 1,024 ตัวอักษร
    ง. 1,042 ตัวอักษร
7. DOS หมายถึงข้อใด
    ก. System Software
    ข. Aplication Software
    ค. User Program
    ง. Package Program
8. หากพิมพ์ผิดจะใช้แป้นพิมพ์ปุ่มใดลบอักษรในตำแหน่งที่เคอร์เซอร์อยู่
    ก. Space bar
    ข. Insert
    ค. Delete
    ง. Back space
9. ไอค่อน Paste อยู่ในส่วนใดของหน้าต่างโปรแกรม Windows
    ก. ไตเติลบาร์
    ข. เมนูบาร์
    ค. ทูลบาร์
    ง. แอดเดรสบาร์
10. เป็นแถบแสดงว่าแฟ้มข้อมูล โฟลเดอร์หรือดิสก์ไดรฟ์  ว่ามีทรัพยากรอยู่เท่าใด มีความจุเท่าใด คือแถบใด
    ก. ไตเติลบาร์
    ข. เมนูบาร์
    ค. แอดเดรสบาร์
    ง. สเตตัสบาร์
11. การย่อเพื่อให้หน้าต่างพักการทำงานชั่วขณะควรกดปุ่มใดของแป้นพิมพ์
    ก. Alt + F4
    ข. Alt + F5
    ค. Alt + F6
    ง. Alt + F8
12. เป็นส่วนการกำหนดสีสันให้กับหน้าจอและหน้าต่างโปรแกรมของ Display properties
    ก. Background
    ข. Screen saver
    ค. Appearance
    ง. Effects
13. ในการใช้คอมพิวเตอร์ กรณีที่ลบไว้นานแล้วแต่อยากจะเรียกกลับคืน จะสามารถทำได้อย่างไร
    ก. ทำไม่ได้
    ข. ใช้คำสั่ง Undo
    ค. ใช้คำสั่ง Restore ใน Recycle bin
    ง. ข้อ ข และ ค กรณีใดกรณีหนึ่ง
14. ถ้าหากจะบรรยายสรุปควรใช้โปรแกรมใดดีที่สุด
    ก. Microsoft Windows
    ข. Microsoft Word
    ค. Microsoft Excel
    ง. Microsoft Power Point
15. เมื่อต้องการยกเลิกคำสั่งที่ทำไปแล้วหรือใช้เฉพาะสำหรับโปรแกรมนั้นๆ ควรใช้ปุ่มใดบนแป้นพิมพ์
    ก. ปุ่ม Esc
    ข. ปุ่ม Shift
    ค. ปุ่ม Caps Lock
    ง. ปุ่ม Enter
16. ปุ่ม Num Lock มีไว้ใช้ทำอะไร
    ก. สำหรับคิดเลข
    ข. สำหรับพิมพ์ตัวเลขในภาษาอังกฤษ
    ค. ใช้เมื่อต้องการพิมพ์ตัวเลขในกลุ่มตัวเลข
    ง. สำหรับป้อนรหัสตัวเท่านั้น
17. การคลิกเมาส์ 1 ครั้ง ที่จะให้โปรแกรมทำงานต้องคลิกเมาส์ข้างใด
    ก. ข้างใดก็ได้
    ข. ด้านซ้ายมือ
    ค. ด้านขวามือ
    ง. สองข้างพร้อมกัน
18. การจับเมาส์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร
    ก. ใช้เฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วก้อยเท่านั้นที่แตะตัวเมาส์
    ข. จับเมาส์แน่นๆ ให้ตัวเมาส์อยู่ในอุ้งมือ วางนิ้วชี้ไว้ที่ปุ่มซ้ายบนเมาส์
    ค. จับเมาส์หลวมๆ ให้ตัวเมาส์อยู่ในอุ้งมือ วางนิ้วชี้ไว้ที่ปุ่มซ้ายบนเมาส์
    ง. จับเมาส์เบาๆ ใช้นิ้วชี้เลื่อนไปเลื่อนมาตามต้องการ
19. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
    ก. โปรแกรม หมายถึงชุดของคำสั่งที่สั่งไว้ล่วงหน้า
    ข. โปรแกรมคอมพิวเตอร์สั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
    ค. Excel เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง
    ง. ถูกทุกข้อ
20. ส่วนใดของคอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ป้อนข้อมูล
    ก. Mainboard
    ข. Monitor
    ค. Printer
    ง. Keyboard

แบบทดสอบอินเตอร์เน็ตเบื้องต้น

https://www.gotoknow.org/posts/263381

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้ในงานด้านต่างๆ
          จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการ ทำให้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวันในสังคมเป็นอย่างมาก  ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซึ่งเรียกว่างานประมวลผล (Word processing) นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ อีกหลายด้าน ดังต่อไปนี้
1. งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำบัญชี งานประมวลคำ และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ก็ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์   ซึ่งทำให้การผลิตมีคุณภาพดีขึ้นบริษัทยังสามารถรับ หรืองานธนาคาร ที่ให้บริการถอนเงินผ่านตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ
(ATM) และใช้คอมพิวเตอร์คิดดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชี เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย
2.งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในนำมาใช้ในส่วนของการคำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน เช่น งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถีการโคจรของการส่งจรวดไปสู่อวกาศ  หรืองานทะเบียน การเงิน สถิติ และเป็นอุปกรณ์สำหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซึ่งจะให้ผลที่แม่นยำกว่าการตรวจด้วยวิธีเคมีแบบเดิม และให้การรักษาได้รวดเร็วขึ้น
3.งานคมนาคมและสื่อสาร ในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง จะใช้คอมพิวเตอร์ในการจองวันเวลา ที่นั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได้ ทำให้สะดวกต่อผู้เดินทางที่ไม่ต้องเสียเวลารอ อีกทั้งยังใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทางอากาศ หรือในการสื่อสารก็ใช้ควบคุมวงโคจรของดาวเทียมเพื่อให้อยู่ในวงโคจร ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อการส่งสัญญาณให้ระบบการสื่อสารมีความชัดเจน
4.งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบ หรือ จำลองสภาวการณ์ ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยคอมพิวเตอร์จะคำนวณและแสดงภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง รวมทั้งการใช้ควบคุมและติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น คนงาน เครื่องมือ ผลการทำงาน
5. งานราชการ เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ , กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมโยงไปยังสถาบันต่างๆ, กรมสรรพากร ใช้จัดในการจัดเก็บภาษี บันทึกการเสียภาษี เป็นต้น
            6.การศึกษา ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยการสอนในลักษณะบทเรียน CAI หรืองานด้านทะเบียน ซึ่งทำให้สะดวกต่อการค้นหาข้อมูลนักเรียน การเก็บข้อมูลยืมและการส่งคืนหนังสือห้องสมุด
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น2ประเภท คือ
1.ประโยชน์ทางตรง
1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก
2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์  ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม
 6.ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้โดยตรงคือคอมพิวเตอร์ทำงานได้เที่ยงตรง รวดเร็ว ไม่เหน็ดเหนื่อย ช่วยผ่อนแรงมนุษย์ ในด้านต่าง ๆ เช่น  ด้านการคำนวณ พิมพ์งาน บันทึกข้อมูล ประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานในแวดวงใน หากนำคอมพิวเตอร์เข้าช่วยงาน  จะช่วยแบ่งเบาภาระงานได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพ
2. ประโยชน์ทางอ้อม
คอมพิวเตอร์ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยในการเรียนรู้ ให้ความปันเทิง เช่น เกม ดูภาพยนตร์
ฟังเพลง ร้องเพลงช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ช่วยงานบันเทิงพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนา
เทคโนโลยีอันส่งผลให้ความเป็นอยู่ของมนุษย์ดีขึ้น
 

วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ลำโพง,หูฟัง,ไมโครโฟน

ลำโพงคอมพิวเตอร์ หรือ ลำโพงมัลติมีเดีย เป็นลำโพงภายนอก ที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยผ่านช่องเสียบซึ่งต่อจากการ์ดเสียงภายในเครื่อง โดยอาจต่อเข้ากับแจ็คสเตอริโอธรรมดา หรือขั้วต่ออาร์ซีเอ (RCA connector) และยังมีจุดเชื่อมต่อยูเอสบี สำหรับใช้ในปัจจุบัน โดยมีแรงดันไฟจ่าย 5 โวลต์ ลำโพงคอมพิวเตอร์มักจะมีขุดขยายเสียงขนาดเล็ก และชุดแหล่งจ่ายไฟต่างหาก

ปัจจุบันลำโพงสำหรับคอมพิวเตอร์มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ขนาด และราคา ปกติจะมีขนาดเล็ก ให้มาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ แต่ก็มีการผลิตลำโพงคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน สามารถปรับแต่งเสียงทุ้มแหลม หรือคุณลักษณะอื่นๆ ได้

หูฟัง (headphones) เป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในประเภทอุปกรณ์แสดงผลข้อมูลในรูปแบบเสียง โดยมีหน้าที่คล้ายกับลำโพง ประกอบด้วยตัวหูฟัง จะได้ยินเสียงเมื่อนำไปครอบกับหู และไมโครโฟนขนาดเล็กในตัวสำหรับใช้สำหรับติดต่อสื่อสารเพื่อการพูได้ เช่นทางโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น รวมถึงใช้เป็นสิ่งบันเทิงในการฟังเพลงเล่นวิดีโอเกมส์ ปรับให้เข้ากับกระบวนการทำงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้เสียง สามารถพกพาไปในสถานที่ต่าง ๆ ได้เพราะมีน้ำหนักเบา


ไมโครโฟน คืออุปกรณ์รับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อประมวลผลในเครื่องขยายเสียงหรืออุปกรณ์ผสมเสียงอื่น ๆ ไมโครโฟนประกอบด้วยขดลวดและแม่เหล็กเป็นหลัก เมื่อเสียงกระทบตัวรับในไมโครโฟน จะทำให้ขดลวดสั่นสะเทือนตัดกับสนามแม่เหล็ก จึงทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งเป็นหลักการทำงานตรงข้ามกับลำโพง โดยทั่วไปไมโครโฟนใช้รับเสียงพูดหรือเสียงร้องเพลง
 



ลำโพง (speaker) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชิงกลอย่างหนึ่ง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง มีด้วยกันหลายแบบ คำว่า ลำโพงมักจะเรียกรวมกัน ทั้งดอกลำโพง หรือตัวขับ (driver) และลำโพงทั้งตู้ (speaker system) ที่ประกอบด้วยลำโพงและวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับแบ่งย่านความถี่ (ครอสโอเวอร์เน็ตเวิร์ก)

ลำโพงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในระบบเครื่องเสียง โดยมีขนาดตั้งแต่เล็กเท่าปลายนิ้ว จนถึงใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางนับสิบนิ้ว โดยมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน
 

สแกนเนอร์ (Scanner)




สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของแอนาลอกเป็นดิจิตอลซึ่งคอมพิวเตอ์ สามารถแสดง, เรียบเรียง, เก็บรักษาและผลิตออกมาได้ ภาพนั้นอาจจะเป็นรูปถ่าย, ข้อความ, ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติ สามารถใช้สแกนเนอร์ทำงานต่างๆได้ดังนี้
- ในงานเกี่ยวกับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร
- บันทึกข้อมูลลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์
- แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ เวิร์ดโปรเซสเซอร์
- เพิ่มเติมภาพและจินตนาการต่าง ๆ ลงไปในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง ๆ
โดยพื้นฐานการทำงานของสแกนเนอร์, ชนิดของสแกนเนอร์ และความสามารถในการทำงานของสแกนเนอร์แบ่งออกได้ดังต่อไปนี้ ชนิดของเครื่องสแกนเนอร์
สแกนเนอร์สามารถจัดแบ่งตามลักษณะทั่วๆ ไป ได้ 2 ชนิด คือ
Flatbed scanners, ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่าง ๆ สแกนเนอร์ ชนิดนี้มีพื้นผิวแก้วบนโลหะที่เป็นตัวสแกน เช่น ScanMaker III Transparency and slide scanners, ซึ่งถูกใช้สแกนโลหะโปร่ง เช่น ฟิล์มและ สไลด์ การทำงานของสแกนเนอร์
การจับภาพของสแกนเนอร์ ทำโดยฉายแสงบนเอกสารที่จะสแกน แสงจะผ่านกลับไปมาและภาพ จะถูกจับโดยเซลล์ที่ไวต่อแสง เรียกว่า charge-couple device หรือ CCD ซึ่งโดยปกติพื้นที่มืดบน กระดาษจะสะท้อนแสงได้น้อยและพื้นที่ที่สว่างบนกระดาษจะสะท้อนแสงได้มากกว่า CCD จะสืบหาปริมาณแสงที่สะท้อนกลับ
จากแต่ละพื้นที่ของภาพนั้น และเปลี่ยนคลื่นของแสงที่สะท้อน กลับมาเป็นข้อมูลดิจิตอล หลังจากนั้นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการสแกนภาพก็จะแปลงเอาสัญญาณเหล่านั้นกลับมาเป็นภพ บนคอมพิวเตอร์อีกทีหนึ่ง สิ่งที่จำเป็นสำหรับการสแกนภาพมีดังนี้
- สแกนเนอร์
- สาย SCSI สำหรับต่อจากสแกนเนอร์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
- ซอฟต์แวร์สำหรับการสแกนภาพ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของสแกนเนอร์ให้ สแกนภาพตามที่กำหนด
- สแกนเอกสารเก็บไว้เป็นไฟล์ที่นำกลับมาแก้ไขได้อาจต้องมีซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนด้าน OCR
- จอภาพที่เหมาะสมสำหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจากสแกนเนอร์
- เครื่องมือสำหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์หรือสไลด์โปรเจคเตอร์ ประเภทของภาพที่เกิดจากการสแกน แบ่งเป็นประเภทดังนี้
1. ภาพ Single Bit
ภาพ Single Bit เป็นภาพที่มีความหยาบมากที่สุดใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล น้อยที่สุดและ นำมาใช้ประโยชน์อะไรไ่ม่ค่อยได้ แต่ข้อดีของภาพประเภทนี้คือ ใช้ทรัพยากรของเครื่องน้อยที่สุดใช้พื้นที่ ในการเก็บข้อมูลน้อยที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสแกนภาพน้อยที่สุด Single-bit แบ่งออกได้สองประเภทคือ
- Line Art ได้แก่ภาพที่มีส่วนประกอบเป็นภาพขาวดำ ตัวอย่างของภาพพวกนี้ ได้แก่ ภาพที่ได้จากการสเก็ต
- Halftone ภาพพวกนี้จะให้สีที่เป็นโทนสีเทามากกว่า แต่โดยทั่วไปยังถูกจัดว่าเป็นภาพประเภท Single-bit เนื่องจากเป็นภาพหยาบๆ
2. ภาพ Gray Scale
ภาพพวกนี้จะมีส่วนประกอบมากกว่าภาพขาวดำ โดยจะประกอบด้วยเฉดสีเทาเป็นลำดับขั้น ทำให้เห็นรายละเอียดด้านแสง-เงา ความชัดลึกมากขึ้นกว่าเดิมภาพพวกนี้แต่ละพิกเซลหรือแต่ละจุดของภาพอาจประกอบด้วยจำนวนบิตมากกว่า
ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
3. ภาพสี
หนึ่งพิกเซลของภาพสีนั้นประกอบด้วยจำนวนบิตมหาศาล และใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมาก ควาามสามารถในการสแกนภาพออกมาได้ละเอียดขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่าใช้สแกนเนอร์ขนาดความละเอียดเท่าไร
4. ตัวหนังสือ
ตัวหนังสือในที่นี้ ได้แก่ เอกสารต่างๆ เช่น ต้องการเก็บเอกสารโดยไม่ต้อง พิมพ์ลงในแฟ้มเอกสารของเวิร์ดโปรเซสเซอร์ ก็สามารถใช้สแกนเนอร์สแกนเอกสาร ดังกล่าว และเก็บไว้เป็นแฟ้มเอกสารได้ นอก จากนี้ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถใช้ โปรแกรมที่สนับสนุน OCR (Optical Characters Reconize) มาแปลงแฟ้มภาพเป็น เอกสารดังกล่าวออกมาเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถแก้ไขได้

เครื่องพิมพ์

เครื่องพิมพ์ ( printer) เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่จะผลิตข้อความและ/หรือกราฟิกของเอกสารที่เก็บไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ออกมาในสื่อทางกายภาพเช่นกระดาษหรือแผ่นใส
เครื่องพิมพ์ส่วนมากเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงทั่วไปและเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเครื่องพิมพ์หรือในเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่จะเป็นสายยูเอสบี เครื่องพิมพ์บางชนิดที่เรียกกันว่าเครื่องพิมพ์เครือข่าย(Network Printer) อินเตอร์เฟซที่ใช้มักจะเป็นแลนไร้สายและ/หรืออีเทอร์เน็ต

เครื่องพิมพ์เลเซอร์



เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser printer หรือ Toner-based printers) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร คือยิงเลเซอร์ไปสร้างภาพบนกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีคุณภาพสูงมาก และราคาเครื่องพิมพ์ก็มีราคาสูงมากด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะทำงานได้เร็วกว่าเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก และคุณภาพของผลลัพธ์ทั้งด้านความคมชัดและรายละเอียดทำออกมาได้ดีกว่าแบบพ่นหมึกมากๆ

เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก




เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก หรือ เครื่องพิมพ์อิงก์เจ็ต (Inkjet Printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดยการพ่นหมึกออกมาเป็นหยดเล็กๆ ลงบนกระดาษ เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ เครื่องพิมพ์จะทำการพ่นหมึกออกตามแต่ละจุดในตำแหน่งที่เครื่องประมวลผลไว้อย่างแม่นยำ ตามความต้องการของเรา ซึ่งเครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะมีคุณภาพดีกว่าเครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ โดยรูปที่มีความซับซ้อนมาก ๆ เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ชัดเจนและคมชัดกว่าแบบดอตแมทริกซ์

เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน




 เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน (Thermal printer) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทำงานโดนการให้ความร้อนแก่กระดาษโดยไม่ต้องใช้หมึก เช่นแบบที่ใช้ในการพิมพ์ใบเสร็จจากเครื่องATM เครื่องคิดเงินในห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อ เครื่องคิดเลขแบบตั้งโต๊ะบางประเภท รวมถึงเครื่องโทรสารในสมัยก่อนก็ใช้ระบบการพิมพ์แบบนี้

เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์





เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot-matrix printer) การทำงานของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้คือจะใช้การสร้างจุดลงบนกระดาษ ซึ่งหัวพิมพ์จะมีลักษณะเป็นหัวเข็ม เมื่อต้องการพิมพ์รูปทรงหรือรูปภาพใดๆ หัวเข็มที่อยู่ในตำแหน่งตามรูปประกอบนั้นๆ จะยื่นออกมามากกว่าหัวอื่นๆ และกระแทกกับผ้าหมึกลงกระดาษที่ใช้พิมพ์ จะทำให้เกิดจุดมากมายประกอบกันเป็นรูปเกิดขึ้นมา เครื่องพิมพ์ประเภทนี้เป็นที่นิยมกันอย่างมากเพราะมีราคาถูกและคุณภาพเหมาะสมกับราคา แต่ข้อเสียคือเวลาสั่งพิมพ์จะเกิดเสียดังพอสมควร มีแต่การพิมพ์แบบขาว-ดำเท่านั้น และต้องใช้กระดาษเฉพาะสำหรับเครื่องพิมพ์แบบนี้เท่านั้น โดยตัวกระดาษจะมี3ชั้น ชั้นแรกเป็นหน้าที่จะพิมพ์ปกติ ชั้นที่2เป็นไส้ในที่เป็นกระดาษคาร์บอนสีดำ และชั้นสุดท้ายเป็นกระดาษปกติสำหรับใช้สำหรับสำเนาสิ่งที่พิมพ์ ซึ่งสำเนาจากการพิมพ์ด้วยกระดาษแบบนี่เรียกว่า สำเนาคาร์บอน ด้านข้างกระดาษจะมีรูเป็นแถวตามยาวไว้สำหรับล็อกเข้ากับเขี้ยวของเฟืองที่เป็นส่วนหนึ่งของกลไกการป้อนกระดาษเข้าตัวเครื่องพิมพ์ประเภทนี้

พล็อตเตอร์






 


 


พล็อตเตอร์ (Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์แบบที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลลงบนกระดาษ ซึ่งเครื่องพิมพ์ประเภทนี้เหมาะกับงานเขียนแบบของวิศวกรและสถาปนิก และเครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาแพงที่สุดในเครื่องพิมพ์ประเภทต่าง ๆ

เครื่องพิมพ์แบบที่สามารถพิมพ์สีได้ไม่ว่าจะแบบเลเซอร์หรือหมึกพ่น ตลับหมึกที่ใช้จะมีทั้งหมดสี่ตลับ แต่ละตลับก็ต่างสีกัน โดยสีที่มีคือ ดำ เหลือง ฟ้า (cyan) สีม่วงแดงเข้ม (margenta) ตัวเครื่องก็จะทำการประมวลผลในการผสมสีให้ได้สีออกมาตามภาพหรือเอกสารแบบสีที่ถูกสั่งให้พิมพ์ออกมา
ปัจจุบันเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์และหมึกพ่นถูกพัฒนาให้เป็นเครื่องพิมพ์ในลักษณะ Multi-function ที่สามารถเป็นเครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องสแกนเอกสารได้ในตัว บางรุ่นสามารถเป็นเครื่องโทรสารได้อีกด้วย มีใช้กันอย่างแพร่หลายตามบ้านและสำนักงาน